กฎหมายแปลกๆจากทั่วโลก

กฎหมายแปลกๆจากทั่วโลก

การเดินทางรอบโลกหรือ การย้ายไปยังประเทศอื่น คือการผจญภัยที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ วัฒนธรรม และบางครั้ง ยังต้องพบกับระบบกฎหมายที่น่าสับสน แม้ว่ากฎหมายส่วนใหญ่จะตรงไปตรงมาและมีเป้าหมายเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยของสาธารณะ แต่กฎหมายในบางที่ก็สามารถสร้างความประหลาดใจและแปลกประหลาดได้เช่นเดียวกัน

ตั้งแต่ผักดองที่ต้องเด้งในอเมริกาไปจนถึงการห้ามสวมชุดเกราะในรัฐสภาสหราชอาณาจักร กฎระเบียบเหล่านี้อาจดูล้าสมัยหรือน่าขบขัน อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้มักจะสะท้อนถึงบริบททางประวัติศาสตร์หรือคุณค่าเฉพาะของท้องถิ่น และการตระหนักถึงสิ่งเหล่านี้สามารถช่วยให้คุณทำความรู้จักสภาพแวดล้อมใหม่ ๆ ได้อย่างง่ายดายและด้วยความเคารพ

การห้ามเล่นฮูลาฮูปบนถนน Fremont Street ของเวกัส ซึ่งเป็นแถบที่มีชื่อเสียงซึ่งเป็นที่รู้จักในด้านบรรยากาศที่มีชีวิตชีวาและนักแสดงข้างถนนที่คึกคัก มีไว้เพื่อความปลอดภัยของสาธารณะและป้องกันความพลุกพล่าน

กฎหมายแปลกในสหรัฐอเมริกา

ระบบกฎหมายของสหรัฐอเมริกามีเอกลักษณ์เฉพาะเนื่องจากมีโครงสร้างของรัฐบาลกลางซึ่งแบ่งอำนาจระหว่างรัฐบาลระดับชาติและระดับรัฐ

แม้ว่า รัฐธรรมนูญของสหรัฐอเมริกา จะเป็นกฎหมายสูงสุด แต่กฎและข้อบังคับแตกต่างกันไปในแต่ละรัฐ ซึ่งนำไปสู่ลักษณะทางกฎหมายหลายประการเนื่องจากพื้นที่ที่ต่างกัน รวมทั้งความพยายามแก้ไขปัญหาเฉพาะภายในชุมชนของตน

ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างกฎหมายในสหรัฐที่น่าเกาหัวสงสัย:

 

1. ในแอริโซนาอย่าให้ลาของคุณนอนในอ่างอาบน้ำ

แม้ว่าอาจดูแปลก แต่กฎหมายนี้มีต้นกำเนิดมาจากเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นจริง เรื่องราวเล่าว่าในช่วงทศวรรษปี 1920 เจ้าของฟาร์มปศุสัตว์จากคิงแมน รัฐแอริโซนา ยอมให้ลาเพื่อนยากของเขาไปงีบหลับในอ่างอาบน้ำร้างบนที่ดินของเขา แต่วันหนึ่ง เขื่อนแตก น้ำท่วมพื้นที่ และน้ำได้ซัดเจ้าลาไปด้วย

จากนั้นมีการใช้ทรัพยากรจำนวนมากของเมืองเพื่อพยายามช่วยเหลือสัตว์ตัวดังกล่าว สร้างความปั่นป่วนให้กับผู้อยู่อาศัยอย่างมาก และเรียกร้องให้สมาชิกสภานิติบัญญัติท้องถิ่นออกกฎหมายเพื่อป้องกันไม่ให้สถานการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีก

 

2. เช็คว่าผักดองของคุณเด้งหรือไม่ในคอนเนคติคัต

กฎระเบียบที่แปลกนี้ถูกบังคับใช้ในช่วงทศวรรษที่ 1940 หลังจากชายสองคนถูกจับในข้อหาขายผักดองที่เน่าเสีย ในขณะนั้น ยังไม่มีมาตรฐานความปลอดภัยด้านอาหารที่เข้มงวด ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ต้องคิดค้นวิธีง่ายๆ ในการรับรองคุณภาพของผักดอง นั่นก็คือ การทดสอบว่าผักดองมีเนื้อเด้งหรือไม่

หากผักดองกระเด้งเมื่อตกจากที่สูง แสดงว่าเนื้อสัมผัสแน่นเหมาะสมเหมาะสมสำหรับการบริโภค ในทางกลับกัน ผักดองที่ไม่เด้งกลับถือว่าเน่าเสียและไม่เหมาะที่จะขาย เพื่อเป็นการรักษาสุขภาพของประชาชน

3. เลี่ยงการเล่นฮูลาฮูปในที่สาธารณธในลาสเวกัส

การห้ามเล่นฮูลาฮูปบนถนน Fremont Street ของเวกัส ซึ่งเป็นแถบที่มีชื่อเสียงซึ่งเป็นที่รู้จักในด้านบรรยากาศที่มีชีวิตชีวาและนักแสดงข้างถนนที่คึกคัก มีไว้เพื่อความปลอดภัยของสาธารณะและป้องกันความพลุกพล่าน

การเล่นฮูลาฮูปในสภาพแวดล้อมที่มีผู้คนพลุกพล่านอาจทำให้เกิดความเสี่ยง รวมถึงการบาดเจ็บ การสัญจรของคนเดินเท้า และความเสียหายต่อทรัพย์สิน

 

4. อย่าลืมใบอนุญาตใส่ส้นสูงในแคลิฟอร์เนีย

แม้ว่าความเชื่อที่ว่ารองเท้าส้นสูงถูกห้ามในแคลิฟอร์เนียนั้นเป็นความเข้าใจผิด แต่ก็มีต้นกำเนิดมาจากข้อบังคับท้องถิ่นที่เฉพาะเจาะจงมากกว่ากฎหมายทั่วทั้งรัฐ ในเมืองชายฝั่ง Carmel-by-the-Sea ที่มีกฎหมายที่กำหนดให้ต้องได้รับอนุญาตให้สวมรองเท้าส้นสูงเกิน 2 นิ้วและมีฐานน้อยกว่า 1 ตารางนิ้ว

กฎดังกล่าวถูกนำมาใช้เพื่อป้องกันเมืองจากการรับผิดชอบปัญหาจากทางเท้าที่ไม่เรียบและถนนที่ปูด้วยหินซึ่งอาจเป็นอันตรายเมื่อสะดุด และถึงแม้ว่ากฎหมายจะไม่ค่อยมีการบังคับใช้และมีการออกใบอนุญาตอย่างเสรี แต่ก็ทำหน้าที่เป็นมาตรการป้องกันเพื่อจำกัดความรับผิดชอบทางกฎหมายของเมืองในกรณีที่ได้รับบาดเจ็บ

 

5. เฉพาะผู้ที่อายุ 18 ปีขึ้นไปที่สามารถเล่นพินบอลได้ในเซาท์แคโรไลนา

เป็นเวลาหลายปีที่รัฐเซาท์แคโรไลนามีกฎหมายห้ามผู้เยาว์เล่นพินบอล โดยมีต้นกำเนิดในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 มีวัตถุประสงค์เพื่อปกป้องคนหนุ่มสาวจากอิทธิพลที่เสื่อมทรามของการพนัน เนื่องจากพินบอลถือเป็นเกมแห่งโอกาสมากกว่าการใช้ทักษะ

โชคดีที่ความตื่นตระหนกทางศีลธรรมบรรเทาลง และในปี 2016 รัฐได้ยกเลิกกฎหมายในที่สุด โดยยอมรับว่าพินบอลเป็นงานอดิเรกที่ไม่เป็นอันตราย

การเคี้ยวหมากฝรั่งผิดกฎหมายใช่หรือไม่ในสิงคโปร์

ใช่ การเคี้ยวหมากฝรั่งถือเป็นสิ่งผิดกฎหมายในสิงคโปร์มาตั้งแต่ปี 1992 โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของรัฐบาลในการรักษาความสะอาดในที่สาธารณะ หลังจากมีการร้องเรียนอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับทางเท้าที่เต็มไปด้วยเศษหมากฝรั่ง จึงได้ห้ามขายและนำเข้าหมากฝรั่ง ยกเว้นหมากฝรั่งสำหรับรักษาโรค ทันตกรรม และนิโคติน ซึ่งหาซื้อได้ตามร้านขายยาและมีใบสั่งยาเท่านั้น

กฎหมายนี้มีการบังคับใช้อย่างเข้มงวด โดยมีค่าปรับจำนวนมากสำหรับผู้ที่ถูกจับได้ว่านำเข้าหรือขายหมากฝรั่งอย่างผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตาม การครอบครองและการเคี้ยวหมากฝรั่งไม่ได้เป็นสิ่งต้องห้ามอย่างชัดเจน กฎระเบียบที่เป็นเอกลักษณ์นี้มีส่วนทำให้สิงคโปร์มีชื่อเสียงในฐานะหนึ่งในเมืองที่สะอาดที่สุดในโลก

กฎหมายแปลกในสิงคโปร์

สิงคโปร์ขึ้นชื่อเรื่องกฎหมายที่เข้มงวดและบางครั้งเป็นกฎหมายที่ไม่เหมือนที่ไหน ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการรักษาชื่อเสียงของเมืองในด้านความเป็นระเบียบเรียบร้อยและความสะอาด

นอกจากการห้ามเคี้ยวหมากฝรั่งแล้ว ยังมีกฎแปลกอื่นๆอีก:

 

1. ห้ามให้อาหารนกพิราบ

หากถูกจับได้ว่าให้อาหารนกพิราบเหล่านี้ ผู้ฝ่าฝืนอาจถูกปรับสูงสุด 10,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ กฎหมายนี้ช่วยควบคุม จำนวนนกพิราบที่รุกรานของสิงคโปร์ ป้องกันการแพร่กระจายของโรค และยับยั้งเศษอาหารที่เหลือ และอาจนำมาซึ่งสัตว์รบกวนอื่นๆ เช่น แมลงสาบและหนู

 

2. กดชักโครกเสมอ

การกดชักโครกหลังการใช้งานอาจดูเหมือนเป็นความเหมาะสมทั่วไป อย่างไรก็ตาม ยังเป็ฯนโยบายด้านสุขอนามัยอีกประการหนึ่งของสิงคโปร์ การลืมกดชักโครกในห้องน้ำสาธารณะของสิงคโปร์ไม่เพียงแต่จะทำให้เกิดความอับอายเท่านั้น แต่ยังถูกปรับสูงสุด 150 ดอลลาร์สิงคโปร์ หากเจ้าหน้าที่จับได้

 

3. ปิดม่านทุกครั้งเมื่อเปลือยกาย

ในสิงคโปร์ การเปลือยกายเดินไปรอบๆ ถือเป็นเรื่องผิดกฎหมายหากคุณเปิดเผยต่อสาธารณะ แม้ว่าจะอยู่ในบ้านของคุณเองก็ตาม! เพื่อให้สอดคล้องกับความพยายามของประเทศในการรักษามาตรฐานทางศีลธรรม หากเห็นคุณเปลือยกายผ่านทางหน้าต่างของคุณอาจทำให้มีโทษปรับ 2,000 ดอลลาร์สิงคโปร์

ในสิงคโปร์ การเปลือยกายเดินไปรอบๆ ถือเป็นเรื่องผิดกฎหมายหากคุณเปิดเผยต่อสาธารณะ แม้ว่าจะอยู่ในบ้านของคุณเองก็ตาม!

กฎหมายแปลกในแคนาดา

ภูมิทัศน์ทางกฎหมายของแคนาดามีความหลากหลายและกว้างใหญ่พอๆ กับขนาดของประเทศ ซึ่งนำไปสู่กฎหมายแปลกอย่างแท้จริง ด้วยการผสมผสานระหว่างอิทธิพลจากอาณานิคม ประเพณีของชนพื้นเมือง และความต้องการในทางปฏิบัติในการปกครองดินแดนขนาดใหญ่และมีความหลากหลาย ต่อไปนี้ คือ กฎที่แปลกประหลาดที่สุดของแคนาดา:

 

1. ห้ามใช้เหรียญเพนนีจ่ายคนแคนาดา

กฎหมาย "ห้ามเหรียญเกิน" ของประเทศ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ พระราชบัญญัติสกุลเงิน เพื่อจำกัดจำนวนเหรียญที่คุณสามารถใช้ได้ในการทำธุรกรรมครั้งเดียว และป้องกันการจ่ายเงินมูลค่าสูงโดยใช้เหรียญมูลค่าน้อย

กฎนี้จำกัดการใช้เหรียญเพนนี (แม้ว่าจะไม่มีการหมุนเวียนอีกต่อไป) ไว้ที่ 25 เซ็นต์ นิเกิลและไดมอยู่ที่ 5 ดอลลาร์ และเหรียญ 1 ดอลลาร์ (ลูนี่) และเหรียญ 2 ดอลลาร์ (ตูนนี่) อยู่ที่ 25 ดอลลาร์และ 40 ดอลลาร์ ตามลำดับ

 

2. ไม่ผิวปากในเมืองพีโตรเลีย ออนตาริโอ

เมืองเล็กๆ แห่งนี้ได้สั่งห้าม "ตะโกน ตะโกน บีบแตร ผิวปาก หรือร้องเพลง" ขึ้นเพื่อรักษาความสงบ และสะท้อนถึงความปรารถนาของชุมชนที่ต้องการให้มีสภาพแวดล้อมที่สงบและเป็นระเบียบเรียบร้อย

แม้ว่ากฎข้อบังคับด้านเสียงส่วนใหญ่จะบังคับใช้ในเวลากลางคืนเพื่อป้องกันการรบกวนในขณะที่ผู้คนนอนหลับ แต่กฎระเบียบของเมืองพีโรทเลียนั้นแตกต่าง เนื่องจากจะบังคับใช้ตลอด 24 ชั่วโมง

 

3. ไม่ทาสีบันไดพาดในเมืองอัลแบร์ตา

แม้ว่าบันไดสมัยใหม่ส่วนใหญ่จะผลิตจากไฟเบอร์กลาสหรืออะลูมิเนียม แต่การห้ามทาสีบันไดที่ทำจากไม้ของเมืองนี้ถือเป็นกฎระเบียบด้านความปลอดภัยที่สมเหตุสมผล

สีที่ทาสามารถปกปิดจุดอ่อนของโครงสร้าง เช่น รอยแตกหรือเศษไม้ และกักเก็บความชื้น ส่งผลให้ไม้เสื่อมสภาพและเกิดอุบัติเหตุได้

 

...แต่การห้ามสวมเสื้อผ้าสีสันสดใสหลังเที่ยงวันของวันสะบาโตยังคงจารึกไว้อย่างเป็นทางการในหนังสือ

กฎหมายประหลาดในออสเตรเลีย

ออสเตรเลียอาจขึ้นชื่อในเรื่องความเรียบง่าย สบายๆ แต่ระบบกฎหมายของประเทศมีกฎหมายที่เข้มงวดและแปลกประหลาดหลายข้อจนน่าประหลาดใจ แม้ว่าบางข้อมีอายุย้อนไปถึงสมัยอาณานิคมและได้รับอิทธิพลอย่างมากจากกฎหมายอังกฤษ แต่ก็มีบางข้อที่เกิดขึ้นเพื่อตอบสนองต่อสภาพแวดล้อมและภูมิศาสตร์อันเป็นเอกลักษณ์ของประเทศ

ต่อไปนี้ คือ กฎระเบียบที่ดูแปลกมากสำหรับคนนอก:

 

1. ห้ามเปลี่ยนหลอดไฟโดยไม่มีใบอนุญาต

ครั้งหนึ่งความปลอดภัยทางไฟฟ้าถือเป็นเรื่องที่จริงจังมากในรัฐวิกตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย แม้แต่งานเล็กน้อยในครัวเรือน เช่น การเปลี่ยนหลอดไฟ ต้องดำเนินการโดยช่างไฟฟ้าที่ได้รับการฝึกอบรม

เหตุผลเบื้องหลัง คือ งานไฟฟ้าทั้งหมดล้วนมีอันตรายที่อาจเกิดขึ้นซึ่งอาจนำไปสู่ความเสี่ยงร้ายแรงหากไม่ได้รับการจัดการอย่างถูกต้อง โชคดีที่กฎระเบียบต่างๆ มีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา ข้อกำหนดในการขอใบอนุญาตเปลี่ยนหลอดไฟจึงผ่อนคลายลง

 

2. การใส่กางเกงสีชมพูในบ่ายวันอาทิตย์ผิดกฎหมาย

แม้ว่าการแต่งกายตามประวัติศาสตร์นี้ซึ่งมุ่งเป้าไปที่การกำหนดมาตรฐานทางศีลธรรมและการรักษาความเหมาะสมของสาธารณะไม่ได้ถูกบังคับใช้อีกต่อไป แต่การห้ามสวมเสื้อผ้าสีสันสดใสหลังเที่ยงวันของวันสะบาโตยังคงจารึกไว้อย่างเป็นทางการในหนังสือ

กฎข้อนี้เป็นเครื่องเตือนใจว่ามาตรฐานทางกฎหมายในออสเตรเลียเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรตลอดหลายปีที่ผ่านมา และกฎหมายที่แปลกประหลาดสามารถสะท้อนถึงลักษณะของยุคต่างๆ ได้อย่างไร

 

3. เข้าร่วมงานแต่งหากคุณได้รับเชิญเท่านั้น

ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ gatecrashing (เข้าร่วมพิธีโดยไม่ได้รับคำเชิญ) ทั้งงานแต่งงาน งานศพ และโอกาสสำคัญอื่นๆ อาจส่งผลให้ได้รับโทษปรับ 5,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือจำคุก 1 ปี

มาตรการทางกฎหมายนี้ป้องกันไม่ให้แขกที่ไม่ได้รับเชิญรบกวนทั้งทางอารมณ์และความเป็นส่วนตัว และเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการรักษาความสมบูรณ์ของพิธีกรรมในชุมชนเหล่านี้

กดชักโครกหลังสี่ทุ่มในสวิตเซอร์แลนด์ผิดกฎหมายหรือไม่

การกดชักโครกหลังเวลา 22.00 น. ในสวิตเซอร์แลนด์ไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมาย แต่กฎระเบียบด้านเสียงในท้องถิ่นมักกำหนดให้งดใช้เสียงดังในช่วงเวลานี้เพื่อลดการรบกวนในเขตเทศบาลหรืออาคารอพาร์ตเมนต์

หากกำลังจะ ย้ายไปสวิตเซอร์แลนด์ ผู้มาใหม่ควรทราบและปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวกับเสียงเฉพาะที่กำหนดโดยฝ่ายบริหารอาคารหรือหน่วยงานท้องถิ่น โดยการคำนึงถึงระดับเสียงในช่วงเวลากลางคืนจะช่วยรักษาสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบและหลีกเลี่ยงการร้องเรียนที่อาจเกิดขึ้นจากเพื่อนบ้าน

กฎหมายแปลกในสหราชอาณาจักร

เนื่องจากประวัติศาสตร์และประเพณีอันยาวนานที่มีอยู่อย่างมากมาย สหราชอาณาจักรจึงมีกฎเกณฑ์ที่อาจดูเขลามากมายที่น่าสนใจ ตั้งแต่พระราชกฤษฎีกาในยุคกลางที่สืบทอดมาจนถึงยุคร่วมสมัยไปจนถึงกฎระเบียบสมัยใหม่ที่ยังคงความแปลก กฎหมายเหล่านี้เป็นเครื่องพิสูจน์ว่ากรอบกฎหมายสามารถพัฒนาไปพร้อมๆ กับการดูแลรักษาร่องรอยของอดีตได้อย่างไร

ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างกฎหมายที่แปลกที่สุด:

 

1. อย่าจัดการปลาแซลมอนด้วยวิธีการต้องสงสัย

บทบัญญัติพิเศษนี้เป็นส่วนหนึ่งของ พระราชบัญญัติปลาแซลมอนปี 1986 ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อต่อต้านการทำประมงผิดกฎหมายและคุ้มครองประชากรปลาแซลมอน กำหนดให้แต่ละบุคคลต้องแสดงแหล่งที่มาตามกฎหมายของปลาแซลมอนที่ตนครอบครอง เพื่อช่วยให้มั่นใจได้ว่าปริมาณปลาจะได้รับการจัดการอย่างยั่งยืน

 

2. คนขับแท็กซี่ต้องเตรียมฟางไว้ด้วย

กฎหมายที่ล้าสมัยนี้ถูกร่างขึ้นในยุครถม้า ก่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ ถือเป็นสิ่งสำคัญเพราะจะทำให้ม้าที่ใช้ขนส่งได้รับการดูแลอย่างดีและมีอาหารเพียงพอที่จะปฏิบัติหน้าที่ได้

 

3. ห้ามสวมชุดเกราะในรัฐสภา

ในช่วงยุคกลาง รัฐสภาไม่ได้เป็นเพียงสถานที่อภิปรายทางการเมืองเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ที่ความขัดแย้งอาจบานปลายจนกลายเป็นความรุนแรงอีกด้วย แม้ว่าการสวมชุดเกราะจะเป็นมาตรการป้องกันในทางปฏิบัติในช่วงที่เกิดความขัดแย้งดังกล่าว แต่การสั่งห้ามนี้น่าจะเกิดขึ้นเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและรับประกันว่าการดำเนินคดีจะไม่นำไปสู่การต่อสู้จนเจ็บตัว

ตั้งแต่พระราชกฤษฎีกาในยุคกลางที่สืบทอดมาจนถึงยุคร่วมสมัยไปจนถึงกฎระเบียบสมัยใหม่ที่ยังคงความแปลก...