ก่อนทำการแพ็ค ตรวจสอบรายการสิ่งของต้องห้ามในการนำเข้าประเทศและภูมิภาคต่างๆ
ข้อมูลสำคัญ
- ประเทศที่สะอาดที่สุดในโลก คือ เอสโตเนีย จากการศึกษาของดัชนีประสิทธิภาพด้านสิ่งแวดล้อม (EPI) ในปี 2024
- ประเทศที่มีความยั่งยืนมากที่สุด ได้แก่ ฮอนดูรัส มอลโดวา นอร์เวย์ สวีเดน นิวซีแลนด์ และสหราชอาณาจักร โดยพิจารณาจากปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจที่แตกต่างกัน
- เมืองที่สะอาดที่สุดในโลก คือ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ตามการจัดอันดับเมืองคุณภาพชีวิตประจำปี พ.ศ. 2023 ของบริษัทที่ปรึกษา Mercer
- ประเทศที่มีน้ำสะอาดที่สุด คือ อิตาลี เสมอกับสหรัฐอเมริกา ตามการจัดอันดับล่าสุดของ EPI สำหรับคุณภาพน้ำดื่มที่ไม่ปลอดภัย
- ประเทศที่มีอากาศสะอาดที่สุดคือนิวซีแลนด์ ตามรายงานปี พ.ศ. 2567 โดย IQAir องค์กรคุณภาพอากาศของสวิส
ประเทศอะไรที่สะอาดที่สุดในโลก
เอสโตเนียได้รับการจัดอันดับให้เป็นประเทศที่สะอาดที่สุดในโลก จากการศึกษาในปี 2024 โดยดัชนีประสิทธิภาพด้านสิ่งแวดล้อม (EPI) ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยเยลและมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย รวมทั้งองค์กรคลังสมองระดับโลกอย่าง World Economic Forum (WEF) ได้จัดอันดับหนึ่งร้อยแปดสิบประเทศตามตัวชี้วัดห้าสิบแปดประการ โดยมุ่งเน้นไปที่ความสมบูรณ์สิ่งแวดล้อม ความสมบูรณ์ของระบบนิเวศ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตัวชี้วัด ได้แก่ คุณภาพอากาศ สุขาภิบาลน้ำ ระดับการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ และการคุ้มครองแหล่งที่อยู่อาศัยทางทะเล
เอสโตเนียได้รับคะแนน 75.3 จากคะแนนเต็ม 100 ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา รัฐบอลติกได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในสามสิบอันดับแรกอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากความก้าวหน้าในคุณภาพอากาศ การจัดการขยะ และการปกป้องแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ในธรรมชาติ
ประเทศอื่นๆที่อยู่ในสิบอันดับแรกของ EPI ประจำปี 2024 ได้แก่ ลักเซมเบิร์ก (75.0) เยอรมนี (74.6) ฟินแลนด์ (73.7) สหราชอาณาจักร (72.7) สวีเดน (70.5) นอร์เวย์ (70.0) ออสเตรีย (69.0) สวิตเซอร์แลนด์ (68.0) และเดนมาร์ก (67.9)

ประเทศที่ยั่งยืนที่สุด
ประเทศที่มีความยั่งยืนที่สุดในโลก ประกอบด้วย ฮอนดูรัส มอลโดวา นอร์เวย์ สวีเดน นิวซีแลนด์ และสหราชอาณาจักร จากความความหลากหลายทางสิ่งแวดล้อม สังคมและเศรษฐกิจ
A การศึกษาแนวทางปฏิบัติทางอุตสาหกรรมทั่วโลกในปี 2024 โดย boilercoverUK รายงานว่าฮอนดูรัสมีการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ต่อประชากรต่ำที่สุด ตามมาด้วยกัวเตมาลา ฟิลิปปินส์ มอลโดวา และโบลิเวีย การปล่อยก๊าซเรือนกระจกในฮอนดูรัสต่ำเนื่องจากกิจกรรมทางอุตสาหกรรมที่จำกัด การพึ่งพาพลังงานทดแทน เช่น ไฟฟ้าพลังน้ำ และโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งที่พัฒนาน้อย
มอลโดวาทำคะแนนสูงอีกครั้ง โดยมาเป็นอันดับหนึ่งในด้านแนวทางปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีที่สุด ประเทศในยุโรปตะวันออกแห่งนี้มีการใช้ปุ๋ยไนโตรเจนในปริมาณต่ำที่สุดเพียง 27.56 กิโลกรัมต่อเฮกตาร์ ปุ๋ยไนโตรเจนปล่อยก๊าซไนตรัสออกไซด์ ซึ่งทำให้ภาวะโลกร้อนย่ำแย่มากยิ่งขึ้น ในทางตรงกันข้าม เนเธอร์แลนด์ใช้ปริมาณมากถึง 205.73 กิโลกรัมต่อเฮกตาร์
จาก ดัชนีการค้าที่ยั่งยืนของ Hinrich-IMD (STI) ปี 2023 นิวซีแลนด์และสหราชอาณาจักร คือสองประเทศที่มีความยั่งยืนทางเศรษฐกิจมากที่สุด นิวซีแลนด์เป็นผู้นำในการจัดอันดับนี้ โดยมีแนวทางที่สมดุลในด้านการเติบโตทางเศรษฐกิจ ความเป็นอยู่ที่ดีของสังคม และการดูแลสิ่งแวดล้อม สหราชอาณาจักรอยู่ในอันดับที่สองโดยมีแนวทางปฏิบัติทางการค้าที่ยั่งยืนและนวัตกรรมในเทคโนโลยีสีเขียวเพื่อเสริมสร้างความยั่งยืนในระยะยาว
วิธีการเป็นนักเดินทางที่ยั่งยืน
ในการเป็นนักเดินทางที่ยั่งยืน จงตัดสินใจเลือกอย่างมีสติที่จะลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้เหลือน้อยที่สุด เช่น ลดการเดินทางทางอากาศ เลือกใช้การขนส่งแบบคาร์บอนเป็นศูนย์ พักในที่พักที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จับจ่ายและรับประทานอาหารในท้องถิ่น เคารพต่อสัตว์ป่า และเปลี่ยนมาใช้ขวด ถุง และ เครื่องใช้ที่นำกลับมาใช้ได้
ในการนำแนวทางปฏิบัตินี้มาปรับใช้ คุณสามารถปกป้องสิ่งแวดล้อมได้ และ เพิ่มประสบการณ์ในต่างแดน ไปพร้อมกัน รวมทั้งสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้แก่ชุมชนที่คุณไปเยือน


แคนซัสยังติดอันดับท็อปชาร์ตเกี่ยวกับสถานที่ราคาไม่แพงสำหรับครอบครัว โดย Overland Park มีอันดับที่ถูกที่สุดต...
เมืองที่สะอาดที่สุดในโลก
เมืองที่สะอาดที่สุดในโลก คือ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย จากข้อมูลของ บริษัทที่ปรึกษาระดับโลกอย่าง Mercer ในการจัดอันดับเมืองที่มีคุณภาพชีวิตดีที่สุด (Quality of Living City Rankingฉ ประจำปี 2023 โดยจัประเมินเมืองต่างๆ ทั่วโลกโดยพิจารณาจากความยั่งยืน โดยมุ่งเน้นไปที่คุณภาพอากาศ การจัดการขยะ ความพร้อมของน้ำอุปโภคบริโภค และสวนสาธารณะ
เมืองหลวงของออสเตรียแห่งนี้ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในอันดับที่ต้นๆอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาถึง 11 ปี เนื่องมาจากมีความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมและการวางผังเมืองที่โดดเด่น สะท้อนให้เห็นถึงแนวทางแบบองค์รวมต่อความยั่งยืนของเมือง ซึ่งเป็นการสร้างมาตรฐานสำหรับเมืองต่างๆ ทั่วโลก เวียนนามีความเป็นเลิศในด้านสำคัญดังต่อไปนี้:
คุณภาพอากาศ: เมืองนี้มีอากาศที่สะอาดที่สุดในบรรดาเมืองอุตสาหกรรมหลักๆ เนื่องจากมีกฎระเบียบด้านการปล่อยมลพิษที่เข้มงวดและการมุ่งเน้นที่การลดมลพิษในรถยนต์ รัฐบาลท้องถิ่นยังส่งเสริมการขนส่งสาธารณะ การปั่นจักรยาน และการเดิน
การจัดการขยะ: ระบบการจัดการขยะที่มีประสิทธิภาพสูงของเวียนนารวมถึงการรีไซเคิลและ โครงการริเริ่มที่ออกแบบมาเพื่อลดการใช้หลุมฝังกลบและเปลี่ยนขยะให้เป็นพลังงาน
การจัดการน้ำ: น้ำดื่มคุณภาพสูงมาจากภูมิภาคเทือกเขาแอลป์ ซึ่งมีชื่อด้านความบริสุทธิ์ นอกจากนี้ โครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัยและได้รับการดูแลอย่างดียังช่วยให้มั่นใจได้ถึงการเข้าถึงน้ำสะอาดที่เชื่อถือได้
พื้นที่สีเขียว: เวียนนาขึ้นชื่อในด้านสวนสาธารณะและสถานที่ทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ตลอดจนความมุ่งมั่นในการอนุรักษ์และการขยาย ส่งเสริมความหลากหลายทางชีวภาพและ ความเป็นอยู่ที่ดีของผู้อยู่อาศัย
ประเทศอะไรที่มีน้ำสะอาดมากที่สุด
อิตาลีและสหรัฐอเมริกามีน้ำที่สะอาดที่สุดในโลก ตาม การจัดอันดับล่าสุดของ EPI สำหรับคุณภาพน้ำดื่มที่ไม่ปลอดภัย EPI วัดน้ำดื่มที่เป็นอันตรายโดยพิจารณาว่ามีคนเสียชีวิตต่อปีกี่คนต่อประชากร 100,000 คน เนื่องจากน้ำที่ไม่ปลอดภัย คะแนน 100 หมายความว่าประเทศนี้เป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราปัญหาสุขภาพที่เกิดจากน้ำที่ไม่ปลอดภัยต่ำที่สุด ในขณะที่คะแนน 0 หมายความว่าประเทศมีอัตราปัญหาสุขภาพที่สูงที่สุดแห่งหนึ่ง ทั้งอิตาลีและสหรัฐอเมริกาทำคะแนนได้ 100 คะแนน รองชนะเลิศ ได้แก่ สิงคโปร์ (99.8) แคนาดา (99.1) เยอรมนี (98.1) สวิตเซอร์แลนด์ (97.9) และนอร์เวย์ (97.8)
เมื่อพิจารณาจากแหล่งน้ำที่ยั่งยืนโดยรวม ลักเซมเบิร์กและสิงคโปร์อยู่ในอันดับต้นๆของการจัดอันดับ ด้วยคะแนน 92.4 ตัวชี้วัดที่ใช้คือน้ำเสียที่เกิดขึ้น การจัดเก็บ บำบัด และนำกลับมาใช้ใหม่ ความสำเร็จของลักเซมเบิร์กเกิดจาก กฎระเบียบด้านมลพิษทางน้ำที่เข้มงวดและโครงสร้างพื้นฐานด้านการบำบัดน้ำเสียขั้นสูง แม้ว่าทรัพยากรธรรมชาติจะมีจำกัด แต่สิงคโปร์ก็ได้พัฒนาระบบการจัดการน้ำที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งรวมถึง โครงการ NEWater ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ซึ่งจะนำน้ำเสียกลับมาใช้ใหม่
ประเทศอะไรที่มีอากาศสะอาดที่สุดในโลก
นิวซีแลนด์ คือ ประเทศที่มีอากาศสะอาดที่สุด ตาม รายงานประจำปี 2024 โดย IQAir หรือ องค์กรคุณภาพอากาศของสวิส ความบริสุทธิ์ของอากาศที่ยอดเยี่ยมของประเทศส่วนหนึ่งเนื่องมาจากความหนาแน่นของประชากรต่ำ ความเป็นเกาะของประเทศ และการใช้พลังงานหมุนเวียนอย่างมีนัยสำคัญ ป่าที่อุดมสมบูรณ์ของนิวซีแลนด์ดูดซับมลพิษ ในขณะที่ กฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวด ช่วยรักษาอากาศที่สะอาด


สิ่งที่น่าสนใจ คือ มีอีกเพียง 7 ประเทศทั่วโลกที่ได้รับการจัดอันดับในระดับนี้ ได้แก่ ออสเตรเลีย เอสโตเนีย ฟินแลนด์ เกรเนดา ไอซ์แลนด์ และมอริเชียส ที่มีคุณสมบัติตรงตาม มาตรฐานคุณภาพอากาศขององค์การอนามัยโลก (WHO) สำหรับฝุ่น PM2.5 (อนุภาคขนาด 2.5 ไมโครเมตรหรือเล็กกว่า) ที่ปล่อยออกมาจากยานพาหนะ และอุตสาหกรรมที่อาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพที่รุนแรงได้ แม้ว่าคุณภาพอากาศทั่วโลกจะดีขึ้นในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา แต่ระดับมลพิษที่เป็นอันตรายยังคงมีอยู่ โดยปากีสถาน อินเดีย และทาจิกิสถาน อยู่ในกลุ่มที่มีการปนเปื้อนมากที่สุด
คุณภาพอากาศที่ดีที่สุดในสหรัฐอเมริกา
เมืองโฮโนลูลู มลรัฐฮาวาย มีคุณภาพอากาศดีที่สุดในสหรัฐอเมริกา ตามรายงานของ State of the Air 2024 โดย American Lung Association (ALA) ข้อค้นพบในรายงานอ้างอิงจากเมืองต่างๆ ของสหรัฐอเมริกาที่สะอาดที่สุดโดยพิจารณาจากมลภาวะอนุภาคตลอดทั้งปี โดยใช้ มาตรฐานคุณภาพอากาศของหน่วยงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อม (EPA) ใหม่ที่ให้การปกป้องมากขึ้นสำหรับอนุภาคละเอียด โฮโนลูลูได้รับประโยชน์จากที่ตั้งอันห่างไกล โดยกระแสลมที่ช่วยกระจายมลพิษ กิจกรรมทางอุตสาหกรรมที่มีน้อย และกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดยังส่งผลต่ออากาศที่สะอาด ทำให้มั่นใจได้ว่าผู้อยู่อาศัยจะมีอัตราการเกิดโรคทางเดินหายใจและโรคหลอดเลือดหัวใจที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับภูมิภาคที่มีมลพิษมากกว่า
มาตรการเชิงรุกเพื่อจำกัดการปล่อยมลพิษจากยานพาหนะ ของเมือง และส่งเสริมการขนส่งสาธารณะ จะช่วยปรับปรุงคุณภาพอากาศของเมืองให้ดียิ่งขึ้น การอนุรักษ์พื้นที่สีเขียวและการลดการขยายตัวของเมือง (การขยายไปยังพื้นที่ชนบทที่ไม่สามารถควบคุมได้) ช่วยรักษาความบริสุทธิ์ของชั้นบรรยากาศของโฮโนลูลู ในการเปรียบเทียบ เมืองที่มีผลผลิตทางอุตสาหกรรมสูงกว่าและมีประชากรหนาแน่นกว่า จะต้องดิ้นรนเพื่อให้ได้คุณภาพอากาศที่ใกล้เคียงกัน